------- (โต๊ะญี่ปุ่น // บ้าน // ครอบครัว) ------
เด็กหญิงวัยสิบขวบนั่งอยู่ตรงหน้าผม เธอสวมชุดกระโปรงสีชมพูสดใส ถัดมาจากเธอคือแม่กับน้องชายของเธอตามลำดับ (ผมจำไม่ได้ว่าทั้งคู่ใส่เสื่อผ้าแบบไหน) น้องของเธอเป็นเด็กชายวัยกำลังซน เขากำลังเดินไปหาพี่สาวด้วยสีหน้าโกรธเคือง ทันใดนั้น เขาก็หยิกแขนของพี่สาวอย่างสุดแรงงง ...
"โอ๊ย" เธอร้องระบายทั้งความเจ็บปวดและความโกรธออกมาพร้อมๆ กัน
ป้าป ------ !! เด็กหญิงฟาดมือใส่น้องชายหลายฝ่ามือ น้ำตาของทั้งคู่ไหลออกมาด้วยความเจ็บแค้นที่พุ่งพร่าน
น้องชายผู้น้องยังคงมุ่งมั่น หยิกพี่สาวต่อไปโดยไม่สนใจคนรอบข้าง แม่ที่นั่งอยู่ข้างๆ พยายามดึงน้องออกมา เด็กชายไม่ยอมง่ายๆ เขากัดฟันแน่น ถลึงตามองด้วยความแค้นเคืองประหนึ่งต้องการประกาศสงครามระหว่างครอบครัว แต่ในที่สุด หญิงคนนั้นก็สามารถแยกลูกเขาออกจากกันได้สำเร็จ 'ไม่มีคำอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น'
ผมซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ประจำฐานกิจกรรม อดเป็นห่วงพวกเขาไม่ได้ จะทำอย่างไรดีนะ ... เพราะด้วยหน้าที่การงานแล้ว ผมต้องพาพวกเขาเข้าสู่โลกแห่งการทดลองวิทยาศาสตร์ตรงหน้า
"มา เรามาต่อภาพจากรูปเรขาคณิตกัน" ผมพูดออกไปห้วนๆ
ทั้งสามให้ความสนใจมาที่ผม ผมรู้ในทันทีว่าพวกเขาทั้งสาม คงจะเพ่งความสนใจมาทางนี้ต่อไปได้อีกไม่นาน ผมจึงหยิบกระดาษที่มีโครงร่างปริศนาออกมาสองแผ่น ทั้งสองแผ่นไม่เหมือนกัน เด็กหกขวบคนไหนก็ดูออกว่ามันเป็นแมวตัวหนึ่ง กับกระต่ายอีกตัวหนึ่ง ผมวางมันลงตรงหน้าของพวกเขา 'กระต่ายน้อยทอบตัวเองลงบนโต๊ะญี่ปุ่นสีขาว เบื้องหน้าเด็กสาวผู้พี่'
------- (แย่ง) -------
"ผมจะเอากระต่าย" เด็กชายพูดพรางหยิบกระดาษรูปกระต่ายจากพี่สาวมาเป็นของตัวเอง
สีหน้าของผู้เป็นแม่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง บาดแผลจากความเศร้าหมองที่ผ่านมายังไม่ทันจะหายดี แผลใหม่ก็กระหนำ่กรีดซ้ำลงมาอีก เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วพูดกับลูกสาวด้วยสีหน้าที่แสนเหนื่อยล้าว่า
"ให้น้องไปลูก เป็นพี่ต้องเสียสละ"
เด็กหญิงอ้าปากค้างด้วยความไม่เข้าใจ กระนั้นหนูน้อยก็ไม่กล้าแม้แต่จะขัดขืน ต้องยินยอมมอบให้โดยดุษฎี
------- (เปลี่ยน) -------
ผมเห็นภาพตรงหน้าแล้วอดเสียใจลึกๆ ไม่ได้ สงสารเด็กหญิงผู้พี่ที่ต้องตกเป็นเหยื่อของความเสียสละ สงสารที่น้องหนูต้องเล่นบทพี่สาวที่แสนดีอยู่ตลอดเวลา สงสารที่เธอบังเอิญเกิดก่อนเด็กชาย
"เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ" ผมพูดขึ้นชัดๆ เพื่อดึงความสนใจจากพวกเขาอีกครั้ง ขณะเดียวกันกับที่ผมเอื้อมมือไปหยิบกระดาษรูปแมวมาเก็บ
"ตอนนี้เรามีกระดาษรูปกระต่ายอยู่หนึ่งแผ่น มีคนสามคน เราจะเล่นเกมนี้ไปด้วยกันโดยผลัดกันคนละตานะครับ" พอผมพูดจบทั้งสามก็รับทราบแต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมผมถึงเก็บกระดาษรูปแมวลงไปใต้โต๊ะ
"เริ่มจากการตัดกระดาษสีแผ่นเล็กตามรอยขีดสีดำนะครับ เราจะได้รูปเรขาคณิตจำนวนเจ็ดรูปด้วยกันครับ"
เด็กชายชะโงกหน้ามามองด้วยความอยากรู้อยากเห็น ผมเห็นเค้าทำดังนั้นจึง ...
"ให้น้องผู้หญิงเป็นคนเริ่มก่อนครับ" ผมพูด
"ไม่เอาผมจะทำก่อน" เด็กชายตะโกนออกมาด้วยความโกรธเกลี้ยว เขาเริ่มต้นเดินไปเพื่อทำร้ายพี่สาวอีกครั้ง ผมดึงเขากลับมานั่งที่โต๊ะ เด็กชายทรุดลงกับพื้นเบาๆ ผู้เป็นแม่มองผมด้วยสายแต่สงสัย
"ตอบพี่มาก่อนว่าทำไมเราต้องทำเป็นคนแรก" ผมถามเด็กชาย ใบหน้าเราทั้งสองแทบจะชนกัน
เด็กชายทำหน้าไม่ถูก เขาคงไม่เคยถูกถามแบบนี้แน่ๆ ผมเงียบ ทุกอย่างหยัดนิ่ง ทุกวินาทีบนเรือนนาฬิกาของผมสั่นไหว แต่มันไม่เดินไปไหน
เด็กชายใคร่ครวญอยู่พักหนึ่ง
"ถ้าตอบไม่ได้พี่จะให้พี่สาวเราเล่นก่อน ว่าไง ทำไมเราต้องเล่นคนแรก"
"ก็ผมอยากเล่นคนแรกหนิ" เด็กชายตอบ
"แล้วเหตุผลล่ะ" ผมถามย้ำ
เขาส่ายหน้าไหวๆ พลางยื่นกรรไกรให้พี่สาว ใบหน้าของหญิงผู้เป็นแม่เปลี่ยนไปอีกครั้ง คราวนนร้เธอสงสัยว่าเหตุใดลูกของตนจึงยอมยื่นกรรไกรให้พี่สาว ...
"ดีมาก เป็นลูกผู้ชายต้องหัดใจกว้าง เราทำสิ่งที่ถูกแล้ว" ผมชมเด็กชายพลางเอามือลูบหัวเขาสองครั้ง
เด็กหญิงตัดรูปสามเหลี่ยมเล็กๆ ออกมาจากกระดาษสีสี่เหลี่ยมแผ่นนั้นหนึ่งรูป พลางส่งกรรไกรให้น้อย
เด็กชายยื่นมือไปรับ ผมเอากรรไกรกลับมา ... ถือเอาไว้ในมือขวา
"ต่อไปถึงตาคุณแม่ เกมนี้คุณแม่ต้องเล่นด้วยครับ" ผมยื่นกรรไกรให้คุณแม่ เด็กชายเกลี้ยวกลาดขึ้นมา เพราะอดทนรอคอยต่อไปไม่ไหว
แม่ส่งกรรไกรให้ลูกชาย ผมเอามันกลับมาอีกครั้ง ...
"ยังไม่ถึงตาหนูตัด เป็นผู้ชายต้องมีวินัย ต้องเล่นตามคิว ไม่งั้นก็ไม่ต้องเล่น"
ผมสอนเด็กชายแบบลูกผู้ชายคุยกัน เด็กชายเงียบใคร่ครวญอยู่สักพัก เขานั่งลง ผมส่งกรรไกรให้ผู้หญิงคนนั้น
"ดีมาก ดีแล้ว เราทำสิ่งที่ดี ผู้ชายมันต้องเป็นแบบนี้" เด็กน้อยยิ้ม
เขาทำหน้าภูมิใจในสิ่งที่เขาตัดสินใจลงไป ไม่นานนักก็ถึงตาที่เขาต้องตัดกระดาษ เขาพยายามตั้งใจสึดกำลังจิต ตัดสี่เหลี่ยมเล็กๆ ออกมาจากกระดาษสี่เหลี่ยมแผ่นใหญ่ เมื่อเสร็จแล้วก็ยื่นกรรไกรให้พี่สาว
หญิงผู้เป็นแม่น้ำตาไหลพราก อุ้มลูกขึ้นมากอดรัดด้วยความรัก จากอ้อมแขนสู่อ้อมอก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น