วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2554

ป้ายหน้า "สวรรค์"

------- (บนรถเมล์ // ฝนจะตก) -------

โลกหมุนไปอย่างเชื่องช้า วันนี้อากาศแสนจะอึดอัด เพราะฝนไม่ยอมตก ฉันนั่งอยู่ที่เบาะสีกรมท่า ชิดแผ่นหลังเข้ากับพนักพิง ขณะที่สายลมปะทะผิวหน้าตามจังหวะคันเร่ง

ป้ายรถเมล์ป้ายแล้วป้ายเล่าล่องลอยผ่านหน้าฉันไป ตอนนี้บ่ายสอง รถไม่ค่อยติดเท่าไหร่ ลองเปลี่ยนเป็นช่วงเย็นสิ ... หึหึ แดดหม่นๆ แบบนี้กับเสียงเพลงแจ๊สในหูทำให้การเดินทางอันแสนน่าเบื่อกลับดูรื่นรมณ์ขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ ฉันคิด ...

พวกเขาจากฉันไปแล้วจริงๆ จากไปอยู่อีกที่ ไกลแสนไกลจากตรงนี้ที่ฉันอยู่ หากอยากพบหน้า ต้องนั่งต่อไปอีกกี่ป้านกันนะ ที่นั่นจะเป็นยังไง มันจะเป็นปุยเมฆสีขาวที่มีแต่งานเฉลิมฉลองหรือเปล่า หรือจะมีแต่เปลวไฟกับกระทะ พวกเขาเปลี่ยนกระทะกันบ้างไหมน้า เวลาลงโทษจริงๆ แล้วต้องใส่น้ำมันมั้ย ...

ใครจะไปรู้ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยตายหนิ ...

โลกที่หมุนช้าใบนี้หลอกให้เราคิดว่าเรายังมีเวลา มีเวลาสำหรับทำสิ่งต่างๆ อีกมาก ไม่ต้องรีบร้อน

แล้วเราก็ดันเชื่ออย่างง่ายๆ หลงเชื่ออย่างสนิทใจ

เราต่างมุ่งมั่นหาเงิน สร้างความมั่นคงในสิ่งที่เราคิดว่ามันถาวร เมื่อเราเราได้ดังต้องการเราก็แก่เสียแล้ว และในที่สุดก็ตายจากไปโดยที่ยังไม่ได้ใช้ชีวิตเลย

ยังมีอีกหลายที่ ที่เรายังไม่ไป มีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรารักเขา ฉันทำอะไรอยู่ ฉันเป็นใคร ...

ฉันคิดว่าชีวิตมันแสนสั้น แต่จะมัวมาตีหน้าเศร้าก็ใช่ที่ ฉันคิดต่อไป ...

จะทำอย่างไรให้วันสึดท้ายจากโลกนี้ไปด้วยความปลาบปลื้มปิติสุขอย่างสุดหัวใจ ไม่ต้องพูดว่าฝากไว้ก่อน ไม่ต้องสั่งให้ใครแก้แค้นให้ ทางเดียวสำหรับฉันคือการเป็นผู้ให้ ผู้ที่อยากให้คนอื่น อย่างเห็นคนอื่นมีความสุข โดยที่ในใจมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ไม่ได้กัดฟัน

ในโลกใบนี้ฉันอาจจะไม่ใช่คนรวย แต่อย่างน้อยฉันก็ได้รับสิ่งเดียวกันกับที่คนรวยได้รับ ท้องฟ้าสีฟ้า ผืนดินสีดำ ต้นไม้สีเขียว ฝนเย็นฉ่ำ กับสายลมแห่งฤดูหนาว มีเหตุผลเพียงพอแล้วที่ฉันจะดีใจและเริ่มก้าวเท้าออกไปให้ผู้อื่น ให้อ้อมกอด รอยยิ้ม ทำให้บางคนรู้สึกได้ว่าฉันกำลังเขาอยู่

เวลาแสนสั้น ยิ้มเข้าไว้ ถึงยังไงเราก็ยังสุขได้นี่นา ไม่มีใครสาปไว้ซะหน่อย ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น