วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2554

สิ่งที่เราใช้ร่วมกัน

เรามองเห็นสิ่งนี้ แต่เหมือนเรามองไม่เห็น


สิ่งนี้ที่หาได้ทั่วไป แต่เป็นของล้ำค่า


สิ่งนี้ได้มาอย่างอย่างฟรี ๆ แต่ขาดไม่ได้


******************************

ผมตื่นขึ้นจากนิทราอันแสนสุข แปดโมงเช้าพอดี แน่ล่ะชีวิตนักเขียนจน ๆ อย่างผม ไม่มีเช้าหรือสาย นาฬิกาสำหรับผมมันมีไว้เผื่อ เผื่อว่าจะมีคนถามว่ากี่โมงแล้วเท่านั้นเอง

สำหรับผมนอกจากความชราที่มากขึ้นทุกวันแล้ว มันไม่มีอะไรต่างไป ผู้คนมองเข็มนาฬิกา "แต่ผมมองที่ขอบ" มันกลมแดง มันไร้จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด 

ผมหายใจเอาความอบอุ่นของพระอาทิตย์เข้าไป ผมหายใจเอาความเหน็ดเหนื่อยของวันวานทิ้งไป ใช่ เมื่อวาน มันผ่านไปแล้ว เหมือนวันนี้ของวันพรุ่งนี้ เหมือนพรุ่งนี้ของวันมะรืน ชีวิตก็เป็นอย่างนี้ ...

ผมเจอของมีค่าสิ่งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ อันที่จริงมันอยู่กับผมมาตลอด ไม่เคยหายไปไหน ครั้งหนึ่งตอนวัยเด็กผมเคยตั้งคำถามเกี่ยวกับมัน

"พ่อคับ อากาศ คือ อะไรเหรอคับ" 

"อากาศก็คืออย่างนี้" พ่อพูดพลางส่งเสียงหายใจออกมา 

"มันคือชีวิต ชีวิตไงลูก หากคนเราไม่หายใจคนเราก็จะตาย เราหายใจเอาอากาศเข้าไป"

วันนั้นเด็กชายรู้สองสิ่ง ประการที่หนึ่งคนตายคือคนที่ไม่หายใจ และคนที่หายใจคือคนที่มี "ชีวิต" วันนี้ผมคิดถึงวันนั้น มันเคยเป็นวันนี้ของผม มันเคยเป็นแม้กระทั่งวันมะรืนด้วยซ้ำ

ผมหายใจเอาอากาศเข้าไปในจมูก ผมหายใจเอาลมหายใจของพ่อของผมเข้าไป หรืออาจจะเป็นของป้าข้างบ้าน ซึ่งหายใจเอาลมหายใจของลุงที่ร้านขายของชำเข้าไป ซึ่งอาจหายให้เอา "ชีวิต" ของสรรพสิ่งใด ๆ ที่เคยเป็นมาบนผืนปฐพีแห่งนี้เข้าไปในกระแสเลือดแล้วก็เป็นได้

ผมหายใจ ...

หายใจเอาเจตนารมณ์ของบรรพบุรุษเข้าไป เอาคุณงามความดี เอาศักดิ์ศรี เอาเกียรติ เอาความเพียรพยายามของทุกคน แม้กระทั้งลุงทองคนขายก๋วยเตี๋ยวที่ตื่นตั้งแต่ตีสามทุกวันเพื่อไปจ่ายตลาด และเอาไปขายตอนเจ็ดโมงเช้า

ดังนั้นจะเจออะไรก็ตาม ผมมีแรงอีกเพียบที่จะผ่านมัน ... วันนี้ของผม พรุ่งนี้ของเมื่อวาน

เราส่งต่อชีวิต และรับชีวิต "การให้" อยู่ในชีวิตของเรา ไม่ว่าเราจะสวมอุดมการณ์สีอะไร ไม่ว่าจะสูงต่ำดำขาว ผ่านผืนอากาศเดียวกัน เราพูดได้เต็มปากว่าเราคือ "หนึ่งเดียว" ไม่ว่าเราจะอยากหรือไม่

ผมหายใจ ...

หายใจเอาความหายของการมีชีวิตอยู่เข้าไปในกระแสเลือด ผ่านหัวใจ ผ่านปอดและเครื่องใน ผ่านมโนสำนึกที่บันดาลใจผม บันดาลให้ผมเดินไปข้างหน้า วิ่งบ้างบางที นอนบ้างบางครั้ง ถอยบ้างบางจังหวะ แต่แน่นอน !! ผมไปข้างหน้า และผมมีบางอย่างอยากจะให้คุณวันนี้ ที่ ตรงนี้ เดี๋ยวนี้ ...

ผมให้ ... คุณรับไปสิ ... อากาศของผม ... ลมหายใจของผม ... ความพยายามของผม ... ชีวิตของผม

เข้าและออกช้า ๆ 

2 ความคิดเห็น:

  1. อารมณ์ุสุนทรีย์นะคะพี่นิว ฮ่าๆ

    อ่านแล้วค่อยมีความรู้สึกว่าอยากหายใจหน่อย เหนื่อยจริงๆ ช่วงนี้ หลายอย่าง มากมาย

    ตอบลบ
  2. นิว..

    ชอบงานเขียน ชิ้นนี้ของนิวมากกว่าชิ้นอื่นๆ
    รู้สึกได้ว่างานเขียนเรื่องไหน
    ที่มีเรื่องราวความผูกผัน
    ระหว่าง พ่อกับลูก แทรกอยู่ในนั้น
    นิวจะเขียนได้อย่างละเมียดละไม....
    ขณะเดียวกันก็มีความลึกซึ้ง กว่าชิ้นอื่นๆด้วย

    งานชิ้นอื่น ก็ดีนะ
    พูดตรงๆ เลย คือ พออ่านแล้วบางอันมันกลวงๆ
    บางอัน ภาษาสวยแต่ฟุ้ง..ไป
    (แต่หากมองว่าเป็นงานทดลอง หรือ บันทึกส่วนตัว
    แบบนี้ก็พอเข้าใจได้ )

    สำหรับ เรื่อง "สิ่งที่เราใช้ร่วมกัน "

    หากเปรียบให้เป็น เค้ก สักชิ้นละก้อ....
    งานชิ้นนี้ก้อเป็นขนมเค้กที่มีรสชาติ "กลมกล่อม"
    หวานพอดี ครีมไม่เยอะมาก เนื้อเค้กนุ่มกำลังดี
    ทุกอย่างเข้ากันลงตัว...ไม่มากไป ไม่น้อยไป
    แม้หน้าเค้ก ไม่ได้สะดุดสายตาแต่แรกเห็น
    แต่พอชิมแล้วไม่ผิดหวัง.... ^^

    พี่ Pla fisho

    ปล.ว่างๆ ลองไปหาไอเดีย ในเค้ก หรือ ร้านกาแฟดูสิ
    เผื่อจะเห็นมุมมองอะไรใหม่ๆ

    ตอบลบ