วันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2554

"ที่อยู่" ของสรรพสิ่ง

ผมหิว "ข้าว" แต่ผมปวด "ขี้"


ประโยคง่าย ๆ ที่ไม่ธรรมดา เพราะหากเราเอาตำแหน่งของคำทั้งสองสลับกัน ผลที่ตามมา คือ "คงต้องมีใครไปกินข้าวในส้วมแน่ ๆ" แต่คนนั้นย่อมไม่ใช่ผม


ฉันรักเธอ หรือเธอรักฉันแบบไหนเป็นความรัก ??? สำหรับผมมันไม่ใช่ทั้งสองอย่าง เพราะผมอยากถูกรักแล้วก็อยากเป็นผู้ให้ความรัก ดังนั้นผมจะตอบว่า รักของผมคือ "เรา ที่รักกันและกัน"


ป้าสมศรีทอดไส้กรอก ... หรือไส้กรอกทอดป้าสมศรี สรุปเราจะกินอะไรระหว่างไส้กรอกกับป้าสมศรี หรือไม่กินทั้งสองอย่างเพราะยังกิน "ขี้" ในตอนแรกไม่เสร็จ


สรรพสิ่งมีจังหวะ มีที่ทาง มีท่วงท่าและลีลาในท่วงทำนอง บางครั้งโลกมันเศร้า เหนื่อย มึน ปวดเหา รวดร้าวทุกต่อมติ่ง แต่ก็แน่ล่ะ "โลกทั้งใบไม่ได้เป็นอย่างนั้นทุกเวลา" เราเป็นตะคริว ยายของเพื่อนก็ไม่ได้เป็นกับเราซะหน่อย เราบอกว่า "ชีวิตของหนูแย่มาก ช่วยด้วยหนูโดนเรยา" ยายเพื่อนเป็นมะเร็งท่านไม่เห็นบ่นสักคำ !!!


"ทุกข์" คืออะไร ...


"เสียใจ" คืออะไร ...


"เจ็บปวด" คืออะไร ...


"เหนื่อยล้า" คืออะไร ...


มันคือการที่เวลาที่ผ่านมาทั้งหมดของเราเคยผ่านความสุข ... ความสมหวัง ... ความสบาย ... และการมีเรี่ยวแรงมาแล้วนั่นเอง เราถึงสามารถรู้จักสิ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้ เหมือนคำกล่าวที่ว่า "รู้จักดีจึงรู้จักชั่ว"


แต่ว่าวันเวลาที่เราทุกข์มันช่างเนิ่นนาน คำแนะนำ !!!! เวลารอคนมาสายอย่าดูนาฬิกาบ่อย ๆ ในเมื่อเขามาสาย อย่าไปคาดหวังว่าเขาจะมาเร็ว


เรามีแรงน้อย คิดเหนื่อยใจไป มันก็ "ดูดพลัง" มีคนเคยบอกผมว่าเวลาเสียใจให้หาใครสักคนระบาย "ผมไม่มีใครคนนั้นให้ฟูมฟายซะด้วย" เหมือนโลกนี้ใจร้าย แต่ทั้งหมดก็เพราะผม "ไม่ใคร่มีเพื่อน"


ดังนั้นผมจึงตัดสินใจประการหนึ่งว่า "ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะต้องไม่ยอมแพ้" หากตายขอตายในหน้าที่ ขอตายคาสนามรบ ไม่ใช่ตายที่ อาบ อบ นวด ผมเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เด็ก ท่องเสมอว่า "จะแข็งแกร่งใช่แข็งที่มัดกล้าม ..."


พอกัดฟันไปสักพัก มันมักมีสิ่งดีตามมาทุกที ผมเรียกมันว่า "จังหวะ เวลาแห่งสรรพสิ่ง" สรรพสิ่งมีที่อยู่ของมัน สิ่งที่ทำให้เราอยู่ในที่ทางของมัน คือ "คุณงามความดี" มันเป็นสิ่งที่ทำให้ใจเรามีเรี่ยวมีแรง เพราะในยามที่เราถามว่าเราทำอย่างนี้อย่างนั้นเพื่อสิ่งใด ความดีนี่แหละจะตอบเรา "จะคอยบันดาลให้เข่าที่อ่อนแรงกลับเหยียดตรงขึ้นยืน และบันดาลให้ใจที่อ่อนล้ากับมามีพลังเต็มความหวังขึ้นได้อีกครั้ง"


สำคัญอย่างยิ่งที่ใจเราต้องสงบ ไม่ว้าวุ่นสาละวนก็สิ่งรอบข้าง ดังจะยกตัวอย่าง "ป้าจิต" ป้าข้างบ้านคนที่สองของผม (หากสังสัยเกี่ยวกับเรื่อง "ป้าข้างบ้าน" กรุณาอ่านเรื่อง "เพื่อน ... สิ่งที่มีความหมายโดยไม่ต้องต่อเติม)


ป้าจิตนอนอยู่ที่บ้าน มีอาการคันหลัง พอจับไปจับมา พบว่ามีแมลงแบบหนึ่งอยู่ที่แผ่นหลังอวบอิ่มของป้า ป้าแกก็เอามาส่องไฟ สันฐานของแมลงคล้ายมด ป้าทนความสงสัยไม่ไหว รุดไปโรงพยาบาลเข้ามอบตัวต่อหมอและพยาบาล หมอบอกว่านี่เป็นตัว "โลน" ป้าแกก็งง เพราะผัวป้าตายไปหลายปีแล้ว ที่ผ่านมาก็ไม่ได้ "ซั้ม" กลับใคร อีกทั้งมันขึ้นที่เฉพาะตรงนั้นที่เดียวหนิ


ป้าแกก็ตกใจเพราะหาคำตอบไม่ได้ ไปหาอีก ... นับได้หลายหมอ ซื้อยากินผิด ๆ ถูก ๆ จนแพ้ยาเข้าไอซียู พอออกมาจากโรงพยาบาลก็รื้อบ้านดู ปรากฎว่ามดมากินเสื้อผ้าแกในตระกร้า ... เห้ออออออ !!!


แบบนี้จะเรียกว่าอะไรดี ???


บ่อยครั้งความกลัว ปรุงแต่งสิ่งต่าง ๆ ขึ้นมา ทำให้เราทุกข์ หรือสุข "เกินจริง" ถ้าจะอยู่ในโลกนี้ เราจำเป็นต้อง "สุขหรือทุกข์ให้สมจริง สมขนาดของมัน" คนเรายามต้องปกป้องอะไรบางสิ่ง หรือใครบางคนเข้าจริง ๆ แล้วล่ะก็ เราจะเข้มแข็งแกร่งอย่างที่ไม่มีอะไรต้านทานเราได้


เชื่อผมเถอะคุณทำได้ ... และได้ยิ่งยิ่งขึ้นกว่า เพราะโลกนี้ยังมีที่ทางสำหรับคุณ ...

1 ความคิดเห็น:

  1. จริงๆ นะ คนเราส่วนใหญ่มักจะกลัวไปเอง ตีโพยตีพายจนเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่

    ตอบลบ