วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2554

"เพื่อน" สิ่งที่มีความหมายโดยไม่ต้องต่อเติม

"เพื่อน" มีดีมีร้ายด้วยหรือ


"เพื่อน" มีแท้มีไม่แท้ด้วยหรือ


"เพื่อน" มีรักมีไม่รักด้วยหรือ


"เพื่อน" มีเก่ามีใหม่ด้วยหรือ


"เพื่อน" มีสนิทมีไม่สนิทด้วยหรือ


บนเส้นบรรทัดของหน้ากระดาษชีวิต ผมนิยามอะไรมากมายเหลือเกิน ความสัมพันธ์ถูกจำกัดความตั้งแต่ผมเป็นเด็ก "ไหว้ลุงสิลูก" "อย่าไปคุยกับคนแปลกหน้า"


ตอนเป็นเด็กผมนึกว่า "พ่อ" เป็นชื่อ "แม่" เป็นชื่อ "ลุง" ก็เป็นชื่อ แม้กระทั่ง "ป้าข้างบ้าน" ก็ยังเป็นชื่ออีกเหมือนกัน


ผม "งง" เมื่อป้าข้างบ้านมีสองคน ...


ภายหลังใช้เวลานานนับขวบปีถึงได้รู้ความแตกต่างระหว่าง "ป้าสมศรี" กับป้า "ข้างบ้าน" แล้วผมก็ถามพ่อว่า "พ่อชื่ออะไรครับ" พ่อตอบฉันว่า "วรวิทย์"


เมื่อเท้าเล็ก ๆ ของผมใหญ่ขึ้น เริ่มคิดว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่คือคนตัวใหญ่ "สวรรค์" กับ "สว่าน" คล้าย ๆ กัน พอเข้าใจว่าเทวดาคือคนดีที่อยู่บนสวรรค์ ...


"พ่อครับเทวดาอยู่ที่ด้ามจับหรือปลายแหลมคับ" อภิโถ่ !!!


"สวรรค์ลูก ... ไม่ใช่สว่าน"


ผมไปเรียนหนังสือครั้งแรกที่โรงเรียนอนุบาล ที่นั่นผมพบคำศัพท์คำหนึ่งมันมีความหมายคล้าย ๆ คนรู้จัก หากแต่การที่จะใช้คำนี้ได้นั้น ต้องให้ความสำคัญกับคนคนนั้นมากกว่าแค่ "คนรู้จัก"


"นี่สรุศักดิ์" ส่วนนี่ "วราวุฒิ" ทำความรู้จักกันเอาไว้สิ คุณครูอนุบาลพูดพลางมองหน้าผม เธอชื่ออำพร เธอคือสิ่งที่ผมต้องเรียกว่า "คนแก่" สินะ ! เพราะคนใดที่ "แก่" หนังหน้ามักจะเหี่ยวย่น แน่นอนสำหรับผมในตอนนั้น "หมาไม่มีวันแก่ มันอยู่ยงคงกระพัน"


"สวัสดีคับ" ฉันยกมือไหว้สุรศักดิ์เพื่อนคนแรกในชีวิตของฉัน อย่างเต็มความบรรจงเท่าที่เด็กหกขวบพึงกระทำได้ พยายามเหลือเกินให้เหมือนในทีวีช่องเจ็ด สุรศักดิ์ตัวแข็งทื่อคล้าย ๆ จะกลายเป็นอัมพาธ


"หนูไหว้เพื่อนทำไมล่ะลูก กล่าวทักทายก็พอแล้ว" ครูอำพรชี้แนะ


"ครูคับ ก่าวทักทาย นี่คืออะไลอ่ะคับ" ผมถาม กล่าวทักทาย คำใหม่มาอีกแล้ว ยอมรับเลยว่าเรื่องนอกบ้านผมไม่ค่อยถนัด จะถนัดก็แต่เรื่อง "นอกคอก" !!!


"กล่าวทักทายก็คือคำพูดเวลาเราเจอหน้ากันไงจ๊ะ" ครูแก่ของผมพยายามอธิบาย ผมพยักหน้าให้คุณครู พลางมองหน้าสุรศักดิ์


"ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยย!!!" ผมลากเสียงยาว แต่ไม่ได้ตะโกนเพราะต้องการแค่ทักทาย ตามที่ผู้ใหญ่นิยมทำกัน


โป้ง !!!


สุรศักดิ์ต่อยเบ้าตาผมอย่างจัง ผมเลยคว้าคอเสื้อ "มัน" แล้วเตะแบบเด็ก ๆ เข้าที่หน้า นับตั้งแต่วันนั้น "ไอ้เก๋" กับ "ไอ้นิว" ก็ไม่ถูกขี้หน้ากันอีกเลย แต่เก๋คือเพื่อน ไม่มีรักหรือเกลียด เพราะเด็ก ๆ เราจะไม่ขยายความกัน "ไม่มีคำวิเศษต่อท้ายคำนามในโลกของพวกเรา"


โตขึ้นมาอีก ที่โรงเรียนในหมู่เด็กชายชาตรีจะนิยมเล่นตุ๊กตุ่นพวกตัวการ์ตูนมากตรงนี้นี่เองที่คำวิเศษเริ่มเข้ามาในชีวิตเป็นครั้งแรก


"ของกูตัวใหญ่กว่าของมึง" ไอ้เก๋เพื่อนของผมกล่าวอย่างจังก้าท้าทาย ผม "งง" ใหญ่กว่าคืออะไร สิ่งที่มีเนื้อที่มากกว่าเหรอ ???


ไม่มีใครตอบฉันเลย ฉันในตอนนั้นรู้เพียงว่า ใหญ่ไม่ใหญ่ไม่รู้ ที่รู้มีอย่างเดียวคือ "กู" ไม่ยอมแพ้ !!! ลงเอยด้วยการต่อยตี แต่เก๋ก็ยังเป็นเพื่อนไม่ดีไม่เลว ไม่รักไม่เกลียด เพราะไม่รู้ว่า "ใหญ่กับไม่ใหญ่" คืออะไร


ต่อมาด้วยประสบการณ์ผ่านกาลเวลา "ใหญ่" จึงถูกเข้าใจ มันทำให้มีพื้นที่ความเข้าใจเหลือให้คำว่า "ดี" กับ "เลว" ด้วย กลายเป็นว่าคำอื่น ๆ ก็พากันแทรกตัวเข้ามาให้เราเข้าใจอยู่เนือง ๆ จนเราไม่รู้เนื้อรู้ตัว เผลอใจเรียกสิ่งต่าง ๆ ตามเขาไป ใช้ความคิดน้อยลงเพราะตกหลุมพลางแห่ง "ความเข้าใจแล้ว"


เมื่อไม่นานมานี้ผมได้เจอ "เพื่อนเก่า" เพื่อนที่รู้จักกันมานานแต่ไม่ค่อยได้คุยกันนัก เป็น "เพื่อนเก่าเก็บ" มากกว่า "เพื่อนเก่าใช้" ผมนิยาม แบ่งประเภทหมวดหมู่ให้ ... เพราะคุ้นชินอีกตามเคย


มีคนมาถามเราว่าคบกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่


"ตั้งแต่แรกเกิด" เพื่อนของผมตอบปุ๊ปปั๊ปฉับไว


"โอ้โห งั้นต้องสนิทกันมากแน่ ๆ เลย" เขาคาดเดา


"คุยกันไปก่อนนะ" ผมบอกเขาสองคน หลังจากนั้นก็พละตัวกลับบ้าน เพราะอึดอัดเต็มทน เอาเพื่อนคนนี้เก็บคืนที่เหมือนเคย


เวลาอยู่กับเพื่อนที่เราไม่อยากคุย เก่าใหม่ไม่สำคัญ ...


วานนี้เอง มานึกดู คำว่าเพื่อนรัก เพื่อนสนิท เพื่อนเก่า มันทำให้เรารู้ว่าเราจะคาดหวังกับเพื่อนคนนี้เท่าไหร่ แล้วเราจะไม่คาดหวังกับใครบ้าง แต่ในอีกแง่มันก็ดันกำหนดว่าเราควรคาดหวังกับคนบางคนได้เพียงเท่านี้ เท่านั้น ห้ามเกินกว่านี้กว่านั้น


นิยามอาจง่ายในการจัดประเภทของ "บางสิ่ง" หรือคน "บางคน" แต่กระนั้น "เพื่อน" ก็มีอีกความหมายที่น่าสนใจ คือ เพื่อนเป็น "สภาวะ" หนึ่งของการตัดสินใจ


คบคนไม่ใช่ที่นิสัย "ดี" หรือ "ชั่ว" แต่คบที่เขาเป็นเขา เธอเป็นเธอ เพราะในความดีย่อมมีความชั่วและในความชั่วก็มีความดี "เพื่อน" จึงไม่ใช่บุคคลแต่ "เพื่อน" เป็นกระตัดสินใจก้าวข้ามทัศนะคติของตัวเอง ที่จะแบ่งว่าใครดี หรือชั่ว ดังนั้นมันจะกลับไปสมัยครั้งเมื่อเรายังเด็กที่พ่อแม่คือชื่อ ...


ที่สิ่งต่าง ๆ อยู่ในที่ทางของมันอย่างง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน ไม่เร่งรีบ ไม่ใส่สี ใส่ไข่ ใส่อารมณ์ของเราลงไป เราจะกลายร่างเป็นเด็กที่เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ในวิถีที่มันเป็นโดยปราศจากสิ่งปรุงแต่ง


ความสุขเกิดขึ้น เพราะเราจะเป็นคนที่มีเพื่อนมากที่สุดในโลก เราสามาถสนิทได้กับทุกคน เพราะไม่มีเพื่อนสนิท หรือเพื่อไม่สนิทในใจของเรา ...

3 ความคิดเห็น:

  1. น่าจะลองเขียนงานไปส่งนานมีบุ๊คอวอร์ด

    จุดเด่นของนิว อยู่ตรงความลุ่มลึกในอารมณ์

    ตอบลบ
  2. เพิ่งมีเวลานั่งอ่านเอาตอนนี้
    เราชอบนะ อ่านเพลินดี ได้คิดตาม
    เราชอบงานที่ทำให้เราได้คิด
    ทั้งคิดตาม คิดแย้ง คิดต่อ
    ลองเช็คพวกตัวสะกดนิดนึงนะจ๊ะ งานจะได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
    เป็นกำลังใจให้จ้า และจะคอยติดตามผลงานต่อไป

    ...มีมี่จ้า...

    ตอบลบ
  3. ถ้าเขียนสักสี่สิบเรื่องนี่ส่งนานมีอวอดได้เลย

    ตอบลบ