------- (๑) -------
ช่วงเวลาที่เราเสียใครสักคนหนึ่งไป
ช่วงเวลาที่เข็มนาฬิกากระดิก จากเลขตัวหนึ่งไปยังอีกตัว
เชื่องช้า ... และทรมาน
เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่น้ำใสๆ ไหลจากขอบตาถึงแก้ม
------- (๒) -------
ความอึดอัดและกดดันภายใน ... ช่างร้ายกาจ
รอยยิ้มที่สูญสลายไปกับการร้องไห้ ... สะอื้น
เมื่อใครคนนั้นปล่อยมือ ... เขาจะไม่กลับมา
และตรงนี้ ก็เหลือเพียงฉัน ... ที่ต้องยอมรับอย่างไม่มีทางเลี่ยง
------- (๓) -------
หน้าอกถึงแผ่นหลังสั่นสะท้าน
ระรัวไปด้วยคำคร่ำครวญ ... ในสิ่งที่อีกไม่นาน ก็จะกลายเป็นอดีต
ที่ผู้คนต่างลืม ...
หยดน้ำตาของฉัน ... ช่างไร้ค่า
------- (๔) -------
อยากเพียงมีใครสักคน ประคองกอดฉันเอาไว้ ...
------- (นับถอยหลัง // เอรี่ผู้ไม่แพ้) -------
ฉันกับพี่ชาย เราหลบไปเล่นด้วยกันที่สวนหลังบ้าน มันเป็นสวนสีเขียวระรื่น ชอุ่มชุ่มฉ่ำไปด้วยหยดน้ำจากสายฝน ที่เพิ่งจะตกลงมาไม่นาน อากาศหม่นๆ เช่นนี้ ชวนให้นอนเคลิ้ม วาดฝันไปต่างๆ นานา แต่เด็กน้อยแสนซนอย่างฉัน หาได้เป็นเช่นนั้น ...
"เอรี่ ตาน้องเป็นแล้ว" เอเดรี้ยน พี่ชายของฉันพูดอย่างอ่อนโยน
"หนูจะไปซ่อน ให้พี่หาไม่เจอเลยคอยดูสิ" เอรี่พูดพลางปั้นปึง
"พี่จับเธอได้ ตั้งแต่เธอยังไม่ไปซ่อนเลยด้วยซ้ำ" เขาท้าทายอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง
แน่นอน มันจะเป็นอย่างนั้นทุกที อันที่จริงแล้ว ฉันเฝ้าคิดมาตลอด ว่าเขาน่าจะมีดวงตาวิเศษ ตาทิพย์ หรืออะไรทำนองนั้น เพราะไม่ว่าฉันจะไปหลบที่ไหน ลึกลับสักเท่าไหร่ เขาก็มักจะหาเจอได้ในทันที 'เกมนี้จึงเป็นเกมของเขา ที่ฉันไม่เคยชนะเลยสักครั้ง'
คราวนี้ ฉันคิดแผนปราบเซียนเอาไว้ เพื่อรับมือกับเขาโดยเฉพาะ เขาไม่มีทางที่จะหาฉันเจออย่างแน่นอน ต่อให้มีดวงตาวิเศษ หรือแม้แต่มีปีกบินได้ก็ตาม 'ฉันสัมผัสได้ถึงชัยชนะ ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มเล่น ครั้งนี้มันจะเป็นเกมของฉันบ้าง'
"พี่จะนับแล้วนะ" เขาตะโกนลั่น
"เอาเลยๆ" ฉันส่งเสียงเจื้อยแจ้วกลับไป
ฉันวิ่งกลับไปที่บ้าน ผ่านถนนสีเทา รูปปั้นของเทพี และสระน้ำพุหิน ที่สลักรูปทวยเทพเอาไว้ เมื่อถึงประตูก็รีบเปิดเข้าไปทันที พ่อของฉันกำลังทำอาหารอยู่ในครัว ท่านหันมาส่งยิ้มให้ฉันด้วย ฉันตอบกลับไปด้วยการโบกมือถี่ๆ
ตึก ตึก ตึก --- !!
ฉันวิ่งขึ้นบันไดไปยังชั้นบน จินตนาการของฉันก็วิ่งหนีตะเลิดไปตามราวบันไดเช่นกัน ใบหน้าของเอเดรี้ยนตอนกำลังตกตะลึงจะเป็นยังไงนะ ฉันคิด พลางล้วงมือเขาไปในกระเป๋าสะพายสีชมพูใบน้อย ลูกกุญแจยังอยู่ดี 'จะมีใครจะรู้ ... หากฉันอยู่ในนั้น'
------- (การปรากฏตัวของอสูรกาย) -------
สายลมแรง พัดปะทะผิวหน้าของฉันหนักหน่วงยิ่งกว่าที่เคย ลูซี่เร่งความเร็วจนแถบทะลุไมล์ เข็มเล็กๆ ที่หน้าปัดค้างเต่ออยู่ที่เลขหลักสามร้อย เสียงเครื่องของรถมอเตอร์ไซค์คันงาม ดังกระหึ่มไปในอากาศ 'สั่นระรัวเหมือนใจของฉันตอนนี้'
ขณะพระอาทิตย์ยามสายทอแสงกล้า โปรยละอองอุ่นลงบนทุ่งหญ้าที่พร่ามัว เงาดำนับสิบเคลื่อนไหวตามมาข้างหลังอย่างกระชั้น ที่ความเร็วระดับนี้ ฉันไม่สามารถมองเห็นพวกมันได้อย่างถนัดตา 'รูปร่างของพวกมันยังคงเป็นปริศนา ที่คาใจ'
"เธอกำลังจะไปไหน" ฉันถาม ท่าทีของลูซี่นิ่งสงบ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"โรงเรียน เราจะกลับไปตั้งหลักก่อน เอรี่ เกาะแน่นๆ นะ" ปากของเธอ มันขยับอย่างนั้น ฉันเห็นมันผ่านกระจกมองหลัง
ไม่ทันขาดคำ ลูซี่ก็เลี้ยวรถอย่างกระทันหันเข้ามาในตรอกแคบๆ แห่งหนึ่ง มันไม่ค่อยจะคุ้นตานัก คงจะเป็นทางที่ลัดไปโผล่ด้านหลังของโรงเรียนล่ะมั้ง นึกไม่ถึง ว่าจากภาพทิวทัศน์ของท้องทุ่งเมื่อกี๊ เพียงไม่กี่นาที ลูซี่ก็พาเราเข้าเมืองมาจนได้ เงาดำพวกนั้นหายไปแล้ว ... น่าแปลก ... พวกมันหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย คงไม่ได้ตามพวกเรามาไม่ทันหรอกนะ
"เหมือนที่เธอพูดไว้ เราต้องไปตั้งหลักที่โรงเรียนก่อน พวกมันคงจะไม่กล้าตามมา ถ้ามีคนเยอะๆ ล่ะมั้ง" ฉันคาดเดาให้เธอฟัง
"เธอเห็นมั้ยว่า พวกมันรูปร่างหน้าตาเป็นยังไง" ลูซี่ถาม ดูเหมือนเธอกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ
"เป็นเงาดำ คล้ายๆ คน คือ ... แบบ ... ผู้หญิงน่ะ" ฉันตอบ
------- (มนต์สะกดของลูซี่) -------
เรามาถึงโรงเรียนในที่สุด จากทางลัดที่ลูซี่พาเราเข้ามา มันมาโผล่ที่ประตูเหล็กบานเล็กๆ ด้านหลังของโรงเรียน ซึ่งเป็นบริเวณที่รกร้าง ไร้ผู้คน เงาดำของอาคารเรียนนับสิบ ทาบทอลงจนเต็มพื้นที่แห่งนี้
"อืม ... เรารีบเข้าห้องเรียนก่อน แล้วค่อยว่ากัน" เธอจอดรถมอเตอร์ไซค์หลบมุมเอาไว้ ไม่ให้มีใครมาเห็น เราทั้งสอง สาวเท้า ก้าวอย่างกระชับฉับเฉง มุ่งหน้าไปยังห้องเรียนของเรา ถึงแม้ว่าเราจะไปสาย แต่ก็เป็นรอยต่อระหว่างคาบเรียนพอดี ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่าเราทั้งคู่มาสาย นอกจากมาร์เธอร์ประจำวิชาเท่านั้น ...
ระหว่างทาง ลูซี่ไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยแม้แต่น้อย ในเวลาเช่นนี้ เธอยังคงเงียบขรึม ฉันได้แต่มองไปยังใบหน้าของเธอ โดยที่ไม่พูดอะไรออกมาเช่นกัน ราวกับความฝัน ดวงตาของเธอช่างหมดจดงดงาม หวานละมุนละไม เจิดจรัสอยู่ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความสับสนเช่นนี้
'ท่วงทำนองในระยะก้าวของเธอ ละม้ายคล้ายมีมนต์สะกดอยู่ในทุกฝีเดิน มันช่างน่าหลงไหลเกินสรรหาถ้อยใดมาบรรยาย ขณะผมดำของเธอปลิวสลวยไปในอากาศ'
------- (มิติที่ลี้ลับ // กระดานดำที่เต็มไปด้วยคำถาม) -------
ฉันกับลูซี่ ตอนนี้เราทั้งคู่นั่งอยู่ในห้องเรียน ฉันนั่งอยู่ที่ริมหน้าต่างเช่นเคย สรุปว่าต้องกลับมาเรียนจนได้ ทั้งๆ ที่อุตส่าห์จะพาลูซี่ไปเที่ยวแท้ๆ เฮ้อ ... ฉันปล่อยมัน ให้ออกไปนอกบานหน้าต่าง 'ลมหายใจเซ็งๆ นั่น'
ระหว่างที่ฉันเฝ้าแต่ทอดถอนอารมณ์ผิดหวังปนสับสน ทอมก็มาพอดี เขาหอบหนังสือกองโตเข้ามาด้วย เขาช่าง ... ดู ... 'พะรุงพะรัง' ... แว่นตาหนาเตอะ กับเสื้อลายจุด ทำให้เขาเหมือนพวก 'สติเฟื่อง' หากมีใครสักคนบอกฉันว่า ที่จริงแล้ว เขามาจากต่างดาว ฉันคงต้องหลงเชื่อแน่ๆ
"วันนี้เราจะมาเรียนเรื่องยากๆ แบบง่ายๆ กัน" เขาวางกองหนังสือลงบนโต๊ะกลางห้อง พลางเอานิ้วขยับกระจกคู่หนา หน้าดวงตาของเขา
"หวังว่าทุกคน คงจะทำการบ้านที่ครูให้ไปเมื่อวานมา" เขาเดินไปมาหน้ากระดานดำ ในมือถือชอล์กสีขาวแท่งยาว ทอมตวัดมันไปมาอย่างคล่องแคล่ว พลางอธิบายเรื่องสมการอย่างออกรสชาติ
"หากเอาสมการที่หนึ่ง มาบวกกับสมการที่สอง ผลรวมของทั้งสองสมการ จะวิ่งเข้าหาค่าศูนย์ ดังนั้นคำตอบของสมการนี้ คือ" เขาหยุด พลางเอานิ้วขยับแว่น ให้ตาย ... เขามองมาที่ฉัน
"หนูฟังไม่ทันค่ะบลาเธอร์ ช่วยอธิบายอย่างช้าๆ อีกทีได้มั้ยคะ" ฉันรีบตอบปัดไป โถ่เอ๊ย ... ทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้นะ ...
"เอาล่ะๆ เอาใหม่หมดเลยนะ" ทอมเริ่มต้นอธิบายจากฝั่งซ้ายของกระดานอีกครั้ง
"เอรี่เธอเห็นเหมือนฉันใช่มั้ย" ลูซี่ถามฉันเบาๆ
"ใช่ -- !! ไม่มีผิดแน่" ฉันตอบ
ที่บนกระดาน พวกเราไม่ได้เห็นเพียงแค่ตัวเลขขยุกขยุยของทอมเท่านั้น หากแต่เป็นภาพของนางเงือกนับสิบ พวกเธอต่างแหวกว่ายอยู่ในนั้น ไม่ต่างไปจากน้ำในทะเล หากมองลึกลงไป มันยิ่งลึกสุดหยั่ง 'คล้ายพื้นน้ำดิ่งดำไม่มีที่สิ้นสุด'
พวกเธอมีรูปร่างผอมแห้ง มีฟันคล้ายๆ กับใบเลื่อย มันเรียงแน่นอยู่ในปากที่ฉีกกว้างจนเกือบถึงหู เกล็ดปลาสีดำเรียงตัวยาวลงมาตลอดเรือนร่าง มันทอประกายระยับ ขณะพวกเธอโบกหางคลีบปลาไปมา
บรรดานางเงือกทุกตัวล้วนแล้วแต่มีดวงตาสีดำ ที่ทอประกายหม่นหมอง ผมยาวที่สยายไปรอบๆ นั่น ทำให้ภาพที่อยู่ตรงหน้า ดูสยดสยองและน่ากลัวขึ้นมาอย่างจับใจ 'น้ำใสๆ เริ่มไหลเปียก จากกระดานลงสู่พื้นห้อง ... เช่นเดียวกับฉัน ที่มันไหลจากขอบตา ถึงร่องแก้ม'
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น