วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ความแปรปรวนของ "อากาศ" ตอนที่ ๖

------- (๑) -------

อาจมีคำรัก ในเสียงหวานของเธอ

อาจมีคำลวง ในแววตา

อาจมีคำถาม ในความคิด

"ถูก" หรือ "ผิด"

"ใช่" หรือ "แค่ชอบ"

------- (๒) -------

เมื่อคนที่ "ใช่" ไม่ใช่คนที่ "ชอบ"

แล้วคนที่ "ชอบ" ดัน "ไม่ใช่"

------- (ใช่ // แค่ล้อเล่น) -------

ช่วงเวลาบนเรือนนาฬิกาหยุดลงสั้นๆ วุ้นเส้นโฟลอยคว้าง ค้างเต่อคาตะเกียบ ทั้งๆ ที่มันห่างจากปากแค่ไม่กี่ระยะข้อนิ้ว

"แพรอย่าล้อเล่นสิ เราเพื่อนกันนะ" ผมพูดเคลิ้มๆ

"เราไม่ได้ล้อเล่นนะ ... เป็นแฟนเราสักวันเถอะ ... ได้มั้ย ??" เธออ้อน

เธอเป็นสาวสวยอย่างที่ยากจะอาจเอื้อม เป็นนางในฝันของชายหนุ่มทุกคนในประวัติศาสตร์ และแน่นอนมันก็แอบมีผมที่รวมอยู่ในนั้นด้วย ผมดีใจเป็นล้นเหลือ มากยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น ... ใครปฏิเสธเธอได้ก็เข้าขั้นโง่บรม

"คงไม่ได้หรอกแพร" เหลือเชื่อ ... ผมพูดอะไรออกไปเนี่ย

มวลอากาศอบอ้าวลอยนิ่ง รอบๆ ตัวเราสองคน และตอนนี้มันนิ่งยิ่งกว่าที่เคย ...

"นั่นสินะ ... เราก็แค่อยากล้อนายเล่นเท่านั้นเอง" เธอตบไหล่ผมแรงๆ พลางส่งยิ้ม ยิ้มละมุนที่เจือหยดน้ำตาจากสองเบ้า ร่องแก้มเธอระยิบด้วยหยดน้ำใสๆ แก้มชมพูระเรื่อพลอยหดหู่ขึ้นมาในทันที

"ฉันอิ่มแล้วล่ะ ไปก่อนนะเพื่อน" เธอยังคงยิ้มหวาน มันละลายหายไปในแก้วน้ำแข็งเปล่าสีชมพูแปร๋นของเธอ ... ใช่ ... แค่คำล้อเล่นเท่านั้น ... "ยังไงซะเรามันก็เพื่อนกัน"


------- (พื้นที่แห่งความวุ่นวาย) -------

ความน่าเบื่อแบบสุดติ่ง บริษัทของผมเอง ... เหมือนสองสิ่งนี้มันจะเป็นคนละสิ่งกัน แต่ทว่าสมองของผมกลับแยกความแตกต่างของพวกมันไม่ออก สองสิ่งนี้ถูกวางเอาไว้ด้วยกัน โดยที่ระหว่างกลางถูกขั้นไว้ด้วย "เครื่องหมายเท่ากับ"

ชั้นสิบสาม ตึกนี้ไม่มีลิฟท์ ... แค่คิดก็เมื่อยทะลุกล้ามแล้ว งบคงจะหมดตอนประเทศไทยเป็นหนี้ไอเอ็มเอฟล่ะมั้ง ... ช่างเหอะ ... ถึงยังไง มันก็สูงและน่าเบื่อในขณะเดียวกันอยู่ดี

ผมวางกระเป๋าสะพายที่ทำจากหนังสีน้ำตาลไว้บนโต๊ะ โต๊ะที่เแสนเปราะบาง มันใกล้หักเต็มทน งานสุมท่วมท้นแทบจะเกินขีดจำกัดของกำลังจากขาโต๊ะทั้งสี่อยู่แล้ว ผมนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม เล็กๆ สีแดงคาดดำ ผมหมุนตัวไปมาบนเจ้ากี้อี้ตัวนั้นระหว่างทำงานบ่อยๆ อันที่จริง คือ ระหว่างที่ผมคิดอะไรไม่ออก

และตอนนี้ผมคงจะต้องหมุนมันมากกว่าที่เคย ... "แพร ... มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่ ???"

------- (ภาระกิจระดับชาติ) -------

"พี่เล็กเรียกประชุม" เอื้อยมาตามพวกเราเข้าประชุม

เอื้อยเป็นพนักงานคนหนึ่งในบริษัท เธอเป็นตัวเล็ก พูดน้อย จริงจังกับงานของเธออย่างมาก นั่นคือ "เลขา" ความจำของเธอเป็นเลิศ ไม่มีใครเทียบได้เลย ... จริงๆ

"พี่นุชสรุปยอด พี่เป้รายงานฐานลูกค้าเดือนที่ผ่านมาเทียบกับเดือนนี้ ..." ผมได้ยินเพียงเท่านี้ เพราะเธอเล่นเดินจี้ไปทีละโต๊ะ เธอพูดออกมาแบบ ... ไม่ต้อง ... มี ...

"พี่แอนเตรียมเอกสารด้วยนะ" นั่นไง ถึงคราวของผม ยั่ยเตี้ยนี่เดินมาจี้ผมที่โต๊ะ

"จ้าเอื้อย รับทราบ" ผมตอบกึ่งประชด เธอมองผมด้วยหางตา แล้วก็เดินจากไป ชุดสูทสีเทาดูจะตัวใหญ่ไปสำหรับเธอ ผมนึกขำในใจ

"ยั่ยเตี้ยเอ๊ย ท่าทางตอนเด็กๆ คงจะไม่ได้กินนม แม้กระทั่งวัวก็อาจไม่รู้ว่ามันคือตัวอะไร เห็นหมาลายขาวดำคงจะถามแม่แหง ... แม่คะ ทำไมมันไม่กินหญ้าละคะแม่ .. หึหึ" คิดแล้วก็ยิ่งอดขำไม่ได้

พอผมคิดมันจนสาแก่ใจแล้ว ก็จัดแจงเตรียมเอกสารที่สำคัญจนครบ แล้วเดินตรงไปยังห้องประชุมทันที ระหว่างทางผมเจอพี่เล็กโดยบังเอิญ เขายืนกำลังหันหลังให้ผม กับใครอีกคนที่ทางหนีไฟ

พี่เล็กกับแพรจับมือกัน ... ใครบางคนกำลังเสียน้ำตา ...


------ (จบตอน) -------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น