วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ลอง

------- (๑) -------

ทุกคนต่างมีจุดยืนของตัวเอง ...

ดังนั้น เราอาจจะแตกต่างกันออกไปบ้างในรายละเอียด

แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะไม่มีจุดที่เหมือนกัน

จุดยืนหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ และสำคัญ ที่ควรจะยิ่งใหญ่กว่าจุดยืนอื่นๆ ในชีวิต

นั้น คือ การรักคนอื่น การรู้สึกว่าเราเป็นของกันและกัน

------- (ลอง // เริ่ม // รู้) -------

ผมทอดสายตามมองออกไปในสังคม สังคมนี้สะท้อนอยู่บนหน้ากระดาษของหนังสือพมพ์

ผมเห็นอะไร ...

ผมเฝ้าชี้นิ้วไล่ไปบนบรรทัดตัวอักษร พากเพียรอ่านจนครบจบเล่ม สิ่งที่เห็น ผมคงไม่ต้องบรรยาย หรืออธิบายขยายความต่อ เพราะทุกคนที่อ่านหนังสือพิมพ์คงจะมองเห็นได้ ไม่แตกต่างกัน

ทุกเช้าบนหน้ากระดาษบางๆ นี้ จะสะท้อนเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในอีกแง่มุมหนึ่งของสังคม เป็นเรื่อง "ผิดปกติ" ที่ถูกนำมาตีแผ่ จนกลายเป็น "เรื่องปกติ" จากมุมมืด จากความลับ มันถูกเผยให้เห็นเด่นกระจ่าง ...

สิ่งที่ผมหวังไว้ในหัวใจ ไม่ใช่ภาพเหล่านั้น ผมวาดฝันที่จะเห็นคนเราเดินไปบนท้องถนนด้วยแรงบันดาลใจ ผมฝันอยากให้ผู้คนตามตลาดร่วมมือกันทำบางสิ่ง ที่ดีกับสังคม กิจกรรมบางกิจกรรมที่จัดขึ้นมาเพื่อชุมชน และอื่นๆ อีกมากมาย โดยไม่ต้องยึดกับกฏเกณฑ์เดิมๆ ที่เคยทำกันมา คิดแค่ว่าอะไรที่มีประโยชน์ก็ "ลงขัน" กันทำ ร่วมด้วยช่วยกันคนละไม้คนละมือ

ความจริง ผมไม่อยากแค่ฝัน ...

สองสัปดาห์แล้วที่ "เรา" กลุ่มเพื่อน เหล่ายุวชนนักเขียนเพลง มารวมตัวกันทำรายการวิทยุคลิ๊ป ในชื่อ "Voice me please" โดยเราเอาความฝันของพวกเราแต่ละคนมาแบ่งปันกัน เล่าให้กันฟัง ยิ้มและหัวเราะ มันเป็นช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน ที่เราจะได้มีพื้นที่ให้กับจินตนาการ เหมือนเราย้อนเวลา กลับไปสู่สภาพของเด็กประถมอีกครั้ง เมื่อครั้งเราเอาขนมและของเล่นมาปันกันเล่น มันง่าย ไม่ซับซ้อน และสุขใจอย่างแปลกประหลาด ก่อนที่เราจะโตขึ้น แล้วปล่อยให้คำว่า "อดีต" ทำให้เราค่อยๆ "ลืม"

เราตั้งใจว่าจะไปหาเพื่อนที่มีความฝันแบบเดียวกับเรามาอีก และเปิดพื้นที่ให้กับพวกเขา เราไม่รู้ว่าสุดท้ายหน้าตาของรายการวิทยุคลิ๊ปนี้จะเป็นอย่างไร แต่เราก็พากเพียรอย่างที่สุดของความสามารถ ตั้งใจจะทำมันไปจนกว่าจะสำเร็จ

รางวัลเหรอ ...

ผมกับเพื่อนเราต่างก็ไม่มีงานประจำ พวกเรารับจ๊อบเล็กๆ ประทังท้องไปวันๆ แน่นอนเราลำบาก หากแต่เราไม่กลัวในจิตใจ เราเชื่อร่วมกันว่า คนที่ซื่อสัตย์กับสิ่งที่เชื่อ เขาจะไม่ขัดสน จะไม่อดตาย และเมื่อถึงเวลาที่รอคอย มันย่อมคุ้มค่ากับสิ่งที่เราลงแรงหว่าน

ดิน เวลา ฝนฟ้า และคำวิงวอนจะได้รับการตอบสนองแน่ๆ

เราจึง "ลองดี" ที่จะเชื่อ ที่จะลงมือทำ เพราะเราแข็งแกร่ง ไม่ใช่แข็งแกร่งแต่แรกเกิด หากแต่เป็นเพราะเราล้มบ่อย จนเราไม่ลืมวิธีลุก

เราจำแม่น ว่าหากมีคนมาดูถูกความฝันของเรา หากมีสิ่งมาท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นความหิว ความเหนื่อยล้า หรือคำพูดของใครบางคน คำใดก็ตามแต่ เราก็จะยังไม่ลืม ที่จะย้ำความฝันของเรา เป็นคำเตือนใจให้ดังขึ้นมาอีกครั้ง จนเรารู้ตัว มีสติ และก้าวต่อไปได้

ดังนั้น ที่จำได้ขึ้นใจ ก็เพราะเรา "ย้ำ" บ่อยนั่นเอง

ไม่แน่วันหนึ่งข้างหน้า หน้าพาดหัวหนังสือพิมพ์อาจเปลี่ยนไป ถ้ามีคนเชื่อรวมกันมากเพียงพอ ถ้ามีคนเบื่อหน่ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากพอ ...

------- (ส่งท้าย) -------

คนเราทุกคนมีจุดยืน แต่เราก็ต้องไม่ลืมจุดยืนอันแสนเรียบง่ายประการหนึ่ง คือ

เราจะรักและเชื่อในเพื่อนของเรา ... จะศรัทธาในความฝันของเขา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

จงให้ ออกไปก่อน จงรักก่อน จงเริ่มก่อน ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น