คนเราบางคนนี่มันเจ๋งเนอะ ! ทั้งที่ล้มทั้งยืนไม่รู้กี่ครั้ง แต่ก็พยายามลุกขึ้นยืนใหม่ทุกครั้ง กลับไม่ถอดใจ ไม่เสื่อมศรัทธาในสิ่งที่ตั้งความหวังเอาไว้
เราจะมีชีวิตอยู่บนโลกกลมๆ นี้ นานเท่าไหร่กัน ??
เราจะได้เห็นเพื่อนๆ ได้อยู่กับครอบครัว ได้กินข้าวกับคนคนนั้นได้อีกกี่มื้อกัน กี่มื้อนะ ที่เราจะมีแรงกินมันด้วยตัวเอง คิดอย่างนี้ก็รู้เลยว่าช่วงเวลาวัยหนุ่มสาวของเรามันช่างสั่นจริงๆ ฉันคิดมันหลังจากได้เห็นเขาคนนั้น
เขาเป็นชายตัวเล็กคนหนึ่งที่ฝันอยากจะเป็นดีเจ ทุกๆ วัน ตอนเย็นๆ เขาจะลากรถเข็นที่มีลำโพงติดอยู่ไปตามทางทางเท้า มันอยู่แถวประตูน้ำนี่เอง
เมื่อเจอที่เหมาะๆ เขาจะหยุดรถ และเริ่มต้นจัดรายการวิทยุของตัวเอง เขาจะเปิดเพลงและพูดด้วยคำพูดละมุน ด้วยวาจาสุภาพ ชวนให้นึกถึงรายการวิทยุเก่าๆ สมัยเพลงลูกกรุง
"ที่จบไปนะชื่อเพลงว่า ขอเป็นตัวเลือก ของวงกะลาครับ หากเรารักใครสักคน บางครั้งเราก็ไม่ได้อยากเป็นคนที่สำคัญของเขาเสมอไปครับ เพราะว่าไม่ว่าอย่างไร เขาก็ยังคงเป็นคนสำคัญสำหรับเราเสมอครับ"
เขาพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ นุ่มๆ แสนอ่อนโยน สิ่งเหล่านี้ซ่อนตัวอยู่ในชายวัยกลางคนท่าทางคล้ายพี่เสกโลโซคนหนึ่ง
เขาคงผ่านอะไรมาเยอะ คงเป็นตัวเลือกที่หลายคนไม่เลือก กระนั้นเขาก็ยังคงให้ความสำคัญกับคนอื่น แม้ว่าจะเป็นได้แค่ ... ก็ตาม
เขาเปิดเพลงให้โลกใบนี้ได้กระชุ่มกระชวย ได้ยิ้ม และได้รู้สึก จากเพลงในชีวิตของเขามันไหลไปสู้ดวงใจของใครบางคน เขาเป็นที่จดจำ มีตัวตนอยู่ และสว่างไสวอยู่ท่ามกลางเงามืดดำของความสิ้นหวัง
เขาคงเคยล้ม คงเคยบาดเจ็บเหมือนเรา คงจะต้องร้องไห้ และรู้สึกว่าตัวเองอยู่คนเดียวเหมือนเรา แต่ที่แตกต่างคือเขายังคงเดินต่อไป อย่างไม่มีเงื่อนไข
สำหรับฉันเขาคืออิสระภาพ เขาเหมือนกำลังใจ เขามีความหมายท่ามกลางโลกที่มึนงงใบนี้ สิ่งที่เขาคิดมันยืนยงไม่ว่าจะผ่านไปกี่แดดฝน หรือกี่ทิวาราตรี
แน่ล่ะ ก็คนเก่งเขาไม่จำเป็นต้องมานั่งป่าวกระกาศว่าตัวเองเก่งนี่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น